ทักษะ เกิดจากการฝึกฝน การทำซ้ำ ด้วยความตั้งใจ อดทน มุ่งมั่นเป็นระยะเวลานาน เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญ มีความชำนาญ ความมั่นใจ เกิดเป็นทักษะ การผลิตหมอนวด หรือ เทอราปิสให้เชี่ยวชาญนั้น หลังจากผ่านการเรียนในหลักสูตรมาตรฐาน ก็จะเข้าสู่สถานการณ์พนักงานป้ายแดง โดยส่วนมาก การที่จะเป็นหมอนวดที่เชี่ยวชาญ อยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ควรจะมีประสบการณ์การทำงาน ประมาณสามปีขึ้นไป แต่ก็มีหลายคน ที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว “เทิร์นโปร” ได้ภายในหนึ่งปี
จากจำนวนสถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมสวย ในประเทศไทย ที่มีอยู่เกือบหมื่นแห่ง กระจายตัวอยู่ทุกจังหวัด โดยมากจะอยู่ที่เมืองหลวง หรือกรุงเทพมหานคร และกระจายตัว อย่างหนาแน่น ในจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ของไทย รายได้ของสถานประกอบการ คือการให้บริการนวด และการทำทรีสเม้นท์อื่น ๆ เป็นหลัก รายได้จากส่วนอื่นจะมี การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการอาหารและเครื่องดื่มในสปา ซึ้งนั้นเป็นรายได้เสริม
หัวใจที่สำคัญที่สุด ในการประกอบกิจการร้านนวดและสปา คือ การบริการของพนักงาน นอกจากในเรื่องของคุณภาพในการให้บริการแล้ว ปริมาณของผู้ให้บริการ ก็ควรที่จะเหมาะสมเพียงพอ กับสถานที่และจำนวนของลูกค้าที่มารับบริการ ตามที่กล่าวมาข้างต้น การผลิตพนักงานนวดให้สามารถบริการได้อย่างดีนั้น ย่อมใช้เวลาในการฝึกฝน และเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อตัวพนักงานต้องการความเติบโตในส่วนของรายได้ แนวคิดในการการย้ายงานเพื่อเพิ่มรายได้ หรือบินไปทำงานต่างประเทศ ย่อมเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดปัญหา การขาดแคลนพนักงานในประเทศไทย
วัฏจักรการหมุนเวียนเปลี่ยนไปของเวลา เมื่อมีเกิด ย่อมมีดับ มีการเริ่ม ย่อมก็มีการสิ้นสุด ไม่มีสิ่งใดคงกระพัน แม้นแสงแห่งดาวเคราะห์ที่เราเห็นในยามค่ำคืน จากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น อาจจะเป็นแสงที่ยังเดินทางมาไม่หมด ของดาวที่แตกดับไปแล้ว ช่วงเวลาการทำงานของหมอนวด ก็เช่นกัน ทุกคนล้วนแต่จะต้องเกษียณอายุ ด้วยเหตุของสุขภาพ หรือความจำเป็นอื่น ไม่ว่าจะเป็นวิชาชีพใด ล้วนต้องมีการทดแทนสิ่งเก่าที่เกษียณไป
จากตัวเลข ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จำนวนพนักงานหมอนวด ที่อยู่ในระบบกว่าสองแสนคน แท้จริงแล้ว ยังไม่สามารถตอบได้ว่า มีผู้ที่ทำงานจริง ๆ อยู่กี่ท่าน หรือจำนวนท่านที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ที่ไม่ได้ลบตัวเลขออกจากระบบของประเทศไทย เราลองคำนวณตัวเลขคร่าว ๆ เพื่อหาอัตราส่วนระหว่างจำนวนสถานประกอบการ ต่อ จำนวนพนักงาน ได้ดังนี้
จำนวนสถานประกอบการในระบบ | 9,907 |
จำนวนผู้ให้บริการเพื่อสุขภาพ | 175,492 |
เฉลี่ยจำนวนพนักงานต่อสถานประกอบการ | 17 ถึง 18 ท่าน (17.7:1) |
จะเห็นได้ว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 17 ท่านต่อสถานประกอบการ ซึ่งยังต้องหัก จำนวนที่อยู่ต่างประเทศ และผู้ที่เกษียณไปแล้ว คาดการณ์ว่าผู้ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ น่าจะประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ถึง 60 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนทั้งหมด จำนวนของพนักงานเทอราปิสในแต่ละสถานประกอบการนั้น ย่อมแตกต่างกัน อย่างน้อยคือ ควรที่จะมีจำนวนพนักงานเทอราปิสที่เท่ากับจำนวนเตียง หรือห้องที่เปิดให้บริการ หรือ มีเพียงพอต่อจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
ผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพนั้น ต้องมีใบอนุญาต คือ ต้องสำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรกลางของกระทรวงสาธารณะสุข และดำเนินการขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย จะได้รับเป็นเอกสารแบบ สพส.14 ที่ใช้ประกอบการสมัครงานในร้านนวด หรือสปา หากปราศจากเอกสารดังกล่าว หรือทำการปลอมแปลงขึ้นมา ทางผู้ประกอบการจะไม่สามารถรับเข้าทำงานได้ เพราะข้อมูลนั้นสามารถตรวจสอบได้จากระบบออนไลน์ของกระทรวงสาธารณสุข การรับผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงานนั้น มีความผิดตามกฎหมาย นอกจากตำแหน่งผู้ให้บริการ ยังมีอีกตำแหน่ง ที่จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตในการเข้าทำงาน นั่นคือ ตำแหน่งผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ หรือ สปาเมเนเจอร์ (SPA Manager)
หากสถานประกอบการนั้น ได้ดำเนินการ ขออนุญาตเปิดสถานประกอบการ เป็นสปาเพื่อสุขภาพ ผู้ประกอบการ จะต้องจัดหาผู้ดำเนินการสปา ให้ปฏิบัติหน้าที่ ตลอดระยะเวลาในการให้บริการของสถานที่นั้น ๆ หมายความว่า หากเปิดดำเนินการต่อวัน เป็นระยะเวลา 16 ชั่วโมงต่อวัน ตลอด 16 ชั่วโมงนั้น จะต้องมีผู้ที่ถือใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอดเวลา โดยทางเทคนิคและข้อกฎหมาย ต้องใช้ใบอนุญาต ไม่ต่ำกว่าสองใบ ในการประกอบกิจการในสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพแห่งนั้น ๆ และเพื่อให้ล้อกับกฎหมายแรงงาน ในเรื่องของชั่วโมงการทำงานต่อวันของลูกจ้าง ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ถือใบอนุญาตผู้ดำเนินการสปาอยู่ในระบบทั้งสิ้น 6,636 ท่าน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2565)
ข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ วันที่ 16 มิถุนายน 2565 ชี้ว่า ธุรกิจสปาในตลาดโลก มีโอกาสเติบโตถึง 17 เปอร์เซ็นต์ ประมาณการรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 1.5 แสนล้านดอลลาร์(USD) ในการที่จะผลิตบุคลากร ที่จะมารองรับการขยายตัวของธุรกิจ จึงเป็นเรื่องที่เร่งด่วน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวในประเทศไทย อาจสูงถึง 40 ล้านคนต่อปี
เนื่องจากผู้เขียน ได้เป็นที่ปรึกษา ในการประกอบธุรกิจสปา และร้านนวดเพื่อสุขภาพ ปัญหาหลักที่เจอในปัจจุบัน และอดีต คือ ปัญหาการขาดแคลนพนักงานนวด สปาเทอราปิสทั้งสปาในประเทศ และต่างประเทศ ทุกครั้งที่รับสายจากเจ้าของร้านนวดและสปา จะมีเรื่องยอดฮิต คือ ต้องการให้ช่วยหาพนักงานนวดเพิ่ม เนื่องจากไม่เพียงพอ ต่อปริมาณของลูกค้า ปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นมาตลอดตั้งแต่ผู้เขียนเริ่มเข้าวงการนวดสปาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน ความต้องการยังมีต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เว้นแต่เพียงช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Corona เมื่อปี 2019 เมื่อย่างเข้าต้นปี 2022 ความต้องการพนักงานเทอราปิสของร้านนวด เพิ่มทวีคูณเมื่อมีเริ่มเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข้ามา ใกล้จะกลับมาเป็นสถานะการณ์ปกติ
สาเหตุที่ทำให้เกิดการขาดแคลนพนักงานเทอราปิสเป็นจำนวนมาก หลังเหตุการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวร้สโคโรน่า มีสาเหตุดังนี้
- รัฐบาลมีคำสั่งปิดสถานประกอบการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส มีการคำสั่งให้ปิดและเปิด จำนวนสามครั้ง ทำให้พนักงานเทอราปิสขาดรายได้ ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพในช่วงที่ปิด จึงย้ายถิ่นฐานกลับภูมิลำเนา และประกอบอาชีพใหม่
- การเข้ามาของธุรกิจ Massage Delivery หลายแบรนด์หันมาเอาตัวรอดจากสถานะการณ์ ด้วยการเพิ่มบริการเสริม ส่งพนักงานนวดตามบ้าน แม้จะมีข้อกำหนดของกระทรวง ห้ามมิให้จัดส่งพนักงานไปทำงานนอกสถานที่ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยก็ตาม และยังมีธุรกิจใหม่ ที่เปิดตัวเป็น Delivery Service โดยแรงจูงใจที่มีต่อพนักงาน คือส่วนแบ่งที่มากถึง 50 -70% จากราคาขาย ทำให้การตัดสินใจเข้าสู่วงการ Delivery นั้นตัดสินใจไม่ยาก และด้วยร้านถูกปิด ไม่มีงานทำ แต่ในปัจจุบัน หลายธุรกิจ Delivery ได้ปิดตัวไป ด้วยสาเหตุและปัญหามากมาย เช่น การขโมยลูกค้าของพนักงาน หรือหลังใช้บริการบน Platform แล้ว ครั้งต่อไปติดต่อจองโดยตรงกับพนักงานเทอราปิส พนักงานไม่พอลูกค้าจองบริการไม่ได้ การติดเชื้อโควิดระหว่างการให้บริการ การแข่งขันของราคา และบางผู้ให้บริการจับตลาดราคาถูก นำพนักงานที่ไม่มีคุณภาพมาให้บริการ ลูกค้าไม่ใช้บริการซ้ำ เป็นต้น
- การที่พนักงานเทอราปิสหลั่งไหลออกไปทำงานต่างประเทศ เนื่องจากสถานนะการณ์ และนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ ไม่เอื้อต่อการทำงาน การหนีตายจึงเกิดขึ้น เพื่อความอยู่รอดของตนและครอบครัว
- การหยุดการเรียนการสอนของโรงเรียนสอนนวด ตามนโยบายของภาครัฐ จึงทำให้เกิด “ช่องว่าง” ขาดช่วงการผลิตพนักงาน และเมื่อโรงเรียนกลับมาเปิดได้ ก็เจอกับปัญหา การขาดทุนการศึกษาของผู้เรียน ดังนั้นสถานประกอบการที่มีความพร้อม ที่เปิดโรงเรียนเองและให้ทุนกับนักเรียน จึงเป็นทางเลือกของผู้ที่สนใจในการเลือกอาชีพนี้ แต่ก็มีเพียงไม่กี่สถานประกอบการเอกชน ที่สามารถเปิดโรงเรียนเองได้
พนักงานเทอราปิสท่านหนึ่ง ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ดูแล ในการเปลี่ยนอาชีพเข้าสู่สายงานสปา พนักงานเทอราปิสท่านนี้ เริ่มเข้าวงการเมื่ออายุประมาณ 40 ปี พื้นหลังเป็นอดีตนักวิชาการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จากมาหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐ รายได้จากงานประจำในไทยอยู่ที่ ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท ต่อเดือน จึงแสวงหางานที่สามารถสร้างรายได้ที่สูงขึ้น จากการมองหาและพิจารณาความเป็นไปได้ จึงตัดสินใจเรียนนวด เพื่อที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ
แม้จะยังใหม่ในวงการนวดสปา แต่ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ที่จะเปลี่ยนชีวิต จึงทำให้สามารถส่งไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ในตำแหน่ง สปาเทอราปิส หรือ ผู้ให้บริการนวด โดยมีรายได้เริ่มต้นที่ไม่รวมรายได้อื่น ๆ อยู่ที่ 2,600 SGD (ดอลล่าสิงคโปร์) ต่อเดือน คิดกลม ๆ เป็นเงินไทยด้วยอัตตราแลกเปลี่ยนที่ 25 THB/SGD จะเท่ากับ 65,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งปัจจุบัน พนักงานท่านนี้ ได้ทำงานที่สิงคโปร์มากกว่า 5 ปีแล้ว และกำลังทำเรื่องขอสัญชาติสิงคโปร์
ในตลาดต่างประเทศ ความต้องการพนักงานคนไทยมีสูงมาก มีหลายสปาในต่างประเทศที่เปิดขึ้นแล้วโฆษณาว่าเป็น Thai Massage แต่ใช้พนักงานส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย เป็นคนในย่านเอเชีย เช่น คนฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย แต่ลูกค้ามักจะแสวงหาการนวดไทยกับพนักงานคนไทยอยู่ดี
แม้ความต้องการพนักงานไทยในต่างแดนจะมีมาก โอกาสและความต้องการที่สูง แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่กีดขวางคนไทย นั่นคือ ความสามารถทางภาษาอังกฤษ และใบอนุญาตทำงานในต่างประเทศ
ภาษาต่างประเทศ เป็นกำแพงสำคัญที่กีดกันพนักงานคนไทย ในการไปทำงานในต่างแดน เพราะหากเราไม่สามารถสื่อสารได้ บางสถานการณ์อาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น การเข้าใจผิดในข้อมูลด้านสุขภาพของผู้รับบริการ อาจทำในสิ่งที่ต้องห้ามในอาการต่าง ๆ ได้ ดังนั้น หากต้องการที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ควรที่จะฝึกฝนในด้านของภาษาให้แข็งแรงเพียงพอในการให้บริการ และมันอาจจะเป็นปราการด่านแรกที่ได้ใช้ ตั้งแต่การสัมภาษณ์กับนายจ้างที่เป็นชาวต่างชาติ หรือแม้กระทั้งงานสปาบนเรือสำราญ ที่ต้องใช้การทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับงานบนเรือ หรือที่เรียกว่า Marine Test
ใบอนุญาตทำงาน หรือ Work Permit หรือ Working VISA ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่าง ๆ ของแต่ละประเทศ ซึ่งบางประเทศ แม้จะมีความต้องการพนักงานเทอราปิสคนไทยเป็นอย่างมาก แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมออกใบอนุญาตทำงานในตำแหน่งงานนี้ได้ จนทำให้ภาคเอกชน ต้องแอบรับสมัครคนไทยไปทำงานนวดผิดกฎหมาย เช่น สาธารณรัฐเกาหลี หรือที่เรารู้จักกันดีจากซีรีย์ดัง นั้นคือ เกาหลีใต้ การเดินทางไปทำงานนวดที่เกาหลี จึงเป็นงานที่ผิดกฎหมาย แต่ความต้องการนวดกับคนไทยในประเทศสูงมาก โดยนโยบายรัฐบาล ได้กำหนดให้อาชีพนวด เป็นอาชีพสงวนให้สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาในประเทศ แต่ด้วยรายได้หลักแสนต่อเดือน และความต้องการของคนเกาหลีเอง ปัจจุบันก็ยังมีการดำเนินธุรกิจร้านนวดไทย โดยพนักงานคนไทย ที่มีอยู่แทบทุกเมือง ทั้งคนไทยที่มีสิทธิทำงาน(เป็นพลเมืองเกาหลี ที่ทำได้อย่างถูกกฎหมาย) และผู้ที่เดินทางไปโดยวีซ่าท่องเที่ยวและทำงานโดยผิดกฎหมาย
ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย โอชิเนีย มีผู้ประกอบการร้านนวด และสปา อยู่แทบทุกทวีป ความต้องการพนักงานไทยยังมีอยู่อีกมาก เราจึงควรที่จะศึกษาเงื่อนไขในการเข้าไปทำงานในประเทศนั้นให้ถี่ถ้วน รอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจ เพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ หรือการทำงานผิดกฎหมายโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว ตัวอย่างเช่น ในประเทศเยอรมนี ความนิยมร้านนวดร้านสปาไทยโดยคนไทยนั้นสูงมาก แต่ท่านต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานก่อน ซึ่งรัฐบาลเยอรมนีไม่ออกวีซ่าทำงานนวดสปาให้ชาวต่างชาติ พนักงานนวดคนไทยที่นั้น จึงเป็นผู้ที่ถือวีซ่าที่มีสิทธิทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวีซ่าแต่งงาน การที่มีผู้ประกาศรับสมัครพนักงานไปทำงานที่ประเทศเยอรมนี จึงต้องพิจารณาถึงข้อนี้ด้วย เพื่อป้องกันการหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ หรือขบวนการค้ามนุษย์อีกด้วย
การสร้างเลือดใหม่ จึงถือเป็นเรื่องระดับชาติ ไม่เพียงแต่เป็นการสืบทอดมรดกทางปัญญาของบรรพบุรุษ แต่ยังเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนไทย ภาครัฐและภาคเอกชน ต้องร่วมมือกันในการให้ความรู้ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ ที่ถูกบิดเบือนไปในเชิงลบ ให้เข้าใจว่าเป็นธุรกิจสีเทา ที่มีมาอย่างยาวนานในสังคมไทย รวมถึงการแอบแฝงอาชีพนวด ไปค้าบริการทางเพศ สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์ของอาชีพเป็นอย่างยิ่ง
การผลักดันส่งออกพนักงานนวดคนไทย ให้ไปทำงานในต่างประเทศ โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ที่สนใจ เข้ามาเรียนรู้และประกอบอาชีพนวดสปา รวมทั้งสนับสนุนการเรียนนวด ให้เพิ่มมากขึ้น ลดอัตราการว่างงาน โอนย้ายจากกลุ่มอาชีพแรงงานไร้ฝีมือ เป็นแรงงานทักษะฝีมือ สร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ไปเผยแพร่วัฒนธรรมความเป็นไทยในต่างแดน สร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล ยกฐานะความเป็นอยู่ของคนในประเทศให้ดียิ่งขึ้น ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะครองโลก ด้วยนวดไทย สกิลที่เรามีอยู่ในสายเลือดคนไทยทุกคน
- ออนเซ็น Onsen ธุรกิจมาแรงในอนาคต - July 12, 2022
- เงินเดือนพนักงานนวดสปา ในต่างประเทศ - July 10, 2022
- เส้นทาง อาชีพ หมอนวด เทอราปิส - July 3, 2022